บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด

คุณกำลังสมัครตำแหน่ง "ผู้จัดการส่วนบริหารทรัพยากรมนุษย์และการจัดการทั่วไปอาวุโส"

ข้อตกลงและยินยอมการให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ประกาศความเป็นส่วนตัว สําหรับผู้สมัครงาน

(Privacy Notice for Applicant)

………………………………………………..

บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จํากัด (ต่อไปในประกาศนี้เรียกว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือผู้สมัครฝึกงาน หรือบุคคลอื่น ซึ่งผู้สมัครดังกล่าวได้ให้ข้อมูลไว้ (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทําประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียด
ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ตลอดจน การลบ และทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านโดยตรง และข้อมูล
ส่วนบุคคลที่ได้รับจากบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ขอให้ท่านโปรดอ่านและทําความเข้าใจ
ถึงกระบวนการที่บริษัทดําเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิ
ในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัท ดังต่อไปนี้

1. คํานิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวตนบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งอาจรวมถึงชื่อของท่าน หรืออาจรวมถึงข้อมูลและสารสนเทศอื่น ๆ เช่น วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เพศ ที่อาจรวมกันแล้วสามารถระบุถึงท่านได้ ข้อมูลและสารสนเทศนี้อาจเก็บได้
ในหลายรูปแบบ เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบฟอร์มกระดาษ

“ผู้สมัครงาน” หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจํา พนักงานชั่วคราวรายวัน พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (outsource) และพนักงาน freelance ที่ทํางานให้แก่บริษัท แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้น จะดําเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในบริษัท หรือผ่านการแนะนําของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดําเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน

2. ขอบเขตการแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัว

ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือผู้สมัครฝึกงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครดังกล่าวได้ให้ข้อมูลไว้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภายนอก ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งมีอํานาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทมีหน้าที่แจ้งให้ท่านทราบถึงแนวทางที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลอะไรที่บริษัทจัดเก็บ ใช้พื้นฐานกฎหมายหรือข้อบังคับอะไร ทําไมถึงต้องจัดเก็บ จัดเก็บจาก
ที่ใด และมีการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้ใคร รวมถึงแจ้งสิทธิให้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

 

3. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

(1) ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือก เช่น Resume, Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน

(2) ข้อมูลประกอบการสรรหาและคัดเลือก เช่น ผลการทดสอบข้อเขียน แบบทดสอบบุคลิกภาพ ผลการสอบสัมภาษณ์ ผลการประเมินวัดคุณลักษณะ ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อและสารสนเทศดิจิตอล ความเห็นประกอบการสรรหาและคัดเลือก เป็นต้น

(3) ข้อมูลในการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล Line ID

(4) ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานะการสมรส

(5) ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ในความดูแลของท่าน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา ตลอดจนข้อมูลบุคคลอ้างอิง และบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ ข้อมูล
ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ อาชีพ เบอร์ติดต่อของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัท ท่านต้องรับผิดชอบแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย และ/หรือดําเนินการขอความยินยอม (หากจําเป็น)

(6) รูปถ่าย

(7) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่น ๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่บริษัท

(8) ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทํางานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น รายละเอียด
ของนายจ้าง ตําแหน่งงาน เงินเดือนและค่าตอบแทน ระยะเวลา สาเหตุการพ้นจากงาน รวมถึงตําแหน่งงานที่สนใจ

(9) สถานภาพทางการทหาร

(10) สําเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น เลขประจําตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ

(11) รายละเอียดของผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

(12) ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ (เฉพาะผู้สมัครงาน ผู้ฝึกงานในตําแหน่งที่จําเป็นต้องใช้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ หรือตามที่บริษัทกําหนด เช่น พนักงานขับรถยนต์ เป็นต้น)

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

บริษัทไม่มีความจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพ แรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ในกระบวนการสรรหาและคัดเลือก หากบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ของท่านจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือก เช่น สําเนาบัตรประชาชน Resume Curriculum Vitae (CV) โดยจะถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทประมวลผลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน

 

 

ทั้งนี้ บริษัทจะไม่นําข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนไปใช้ประโยชน์อื่น นอกเหนือจากที่แจ้งไว้ในประกาศฉบับนี้ และบริษัทจะควบคุมการเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนอย่างระมัดระวังกับผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น รวมถึงกรณีที่ต้องให้ความยินยอม บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการใช้ข้อมูลดังกล่าว และให้เหตุผลของผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้ท่านสามารถพิจารณาถึงเหตุผลความจําเป็นได้ ทั้งนี้ บริษัทจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีความละเอียดอ่อนหากท่านได้รับการคัดเลือกให้บรรจุเป็นพนักงานของบริษัทตามเหตุผลด้านการพิสูจน์ความผิดทางกฎหมาย และความจําเป็นด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ รวมถึงบางตำแหน่งที่บริษัทเปิดรับสมัครโดยเฉพาะ เช่น พนักงานผู้พิการ การนับถือศาสนาเพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับฮาลาล เป็นต้น เพื่อพิจารณาเข้าดำเนินงานยังบริษัท

5. แหล่งที่มาของข้อมูล

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่

(1) บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ใบสมัคร การติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ เช่น ทางโทรศัพท์ อีเมล เว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงบริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ
เช่น เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์

(2) ในบางกรณีอาจจําต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น หรือบุคคลอื่น
เช่น บุคคลอ้างอิงที่ท่านระบุในใบสมัครงานของบริษัท ผู้ค้ำประกันการปฏิบัติงานของท่าน (บางตําแหน่ง) หน่วยงานราชการ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ บริษัทรับจัดหางาน เว็บไซต์บริษัทรับจัดหางาน แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ เช่น ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต สื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เป็นต้น

6. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะดําเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม โดยจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจําเป็น เพื่อใช้ในขั้นตอนการสมัครงาน อันได้แก่ การนัดหมาย การสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาคัดเลือก ประเมินความเหมาะสมของท่านต่อตําแหน่งงาน และเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท
โดยมีวัตถุประสงค์ตามตารางที่ระบุต่อไปนี้

วัตถุประสงค์

ประเภท

ของข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานกฎหมายที่ใช้

เพื่อดําเนินการที่จําเป็นในการพิจารณาและคัดเลือก ท่านในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัครผ่านเว็บไซต์รับสมัครงานของบริษัท หรือเว็บไซต์รับสมัครงานจากภายนอกที่บริษัทสมัครไว้ หรือสมัครผ่านทางบริษัทโดยตรง หรือ ช่องทางอื่น ๆ ที่บริษัทกําหนด ขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินและคัดเลือก

ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในหัวข้อ 3. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

การจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

7. ข้อมูลและสารสนเทศที่บริษัทได้รับและส่งต่อให้หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง

บริษัทอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านกับส่วนงานภายในบริษัท หน่วยงานภายนอกอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ส่วนงานเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน ผู้ให้บริการสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ผู้มีอํานาจตามกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสรรหา และคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทจะกําหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จําเป็นเท่านั้น และดําเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจโดยมิชอบ

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ

8.1 กรณีที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว
ได้ก็ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อํานาจปกครองที่มีอํานาจกระทําการแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้มีอํานาจให้ความยินยอมแทนบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (แล้วแต่กรณี)

8.2 กรณีที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ แต่บริษัทไม่ทราบในขณะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ว่าเจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และต่อมาบริษัทได้ทราบในภายหลังว่าบริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอํานาจให้ความยินยอมแทนบุคคลดังกล่าวตามข้อ 7.1 บริษัทจะลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวได้ โดยอาศัยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายและไม่ต้องขอความยินยอม

9. หลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

แนวทางการดําเนินการเมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้จัดทําตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล www.kpthai.com ของบริษัท โดยจะสอดคล้องกับหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

9.1 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ (Lawfulness, Fairness and Transparency)

9.2 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่บริษัทกําหนด และไม่นําไปใช้ หรือเปิดเผยนอกเหนือขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลนั้น (Purpose Limitation)

9.3 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ เกี่ยวข้อง และเท่าที่จําเป็นตามวัตถุประสงค์ ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Data Minimization)

9.4 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและดําเนินการให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันในกรณีที่จําเป็น (Accuracy)

9.5 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาเท่าที่จําเป็น (Storage Limitation)

9.6 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม (Integrity and Confidentiality)

10. ระยะเวลาการเก็บรักษา

บริษัทจะทําการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จําเป็นตามประเภทของวัตถุประสงค์ ซึ่งมีระยะเวลาจัดเก็บสูงสุดไม่เกิน 2 ปี นับแต่สิ้นสุดขั้นตอนการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายของท่าน เว้นแต่ท่านได้รับคัดเลือกให้บรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานของบริษัท บริษัทจะดําเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังฐานข้อมูลพนักงานของบริษัท รวมถึงกรณีที่บริษัทสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของท่านได้ตามกฎหมาย ตลอดจนในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคําสั่งหรือคําพิพากษาถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจําเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งบริษัทจะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

11. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศนี้ให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณี ดังต่อไปนี้

11.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกํากับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกําหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อํานาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็นต้น

11.2 หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเรียกร้อง การดําเนินคดี การโต้แย้งข้อร้องเรียนหรือข้อกล่าวหา การต่อสู้คดีของบริษัท เช่น คู่ความในคดี พยาน เป็นต้น

12. มาตรการความปลอดภัยสําหรับข้อมูลส่วนบุคคล

12.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสําคัญสําหรับบริษัท จึงได้นํามาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิค และการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลง เปลี่ยนแปลง และการทําลาย โดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจํากัดการเข้าถึง เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

 

 

12.2 บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจําเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

12.3 บริษัทจะจัดให้มีการฝึกอบรมแก่พนักงานที่มีหน้าที่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานเข้าใจ และตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความเป็นส่วนตัวเมื่อจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล

12.4 บริษัทจะบันทึกรายการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนดเอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือในระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เจ้าของข้อมูลหรือหน่วยงานที่มีอํานาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบได้

13. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางและการอํานวยความสะดวกให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคลมีดังต่อไปนี้

13.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความคุ้มครองของบริษัท หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มา ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้รับความยินยอม (Right of Access)

13.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification) กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

13.3 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกําหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทําลายหรือทําให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้

13.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด

13.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน สําหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกําหนด เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคําขอโดยชอบด้วยกฎหมาย

13.6 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) ในกรณีที่บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจํากัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

13.7 สิทธิในการขอรับ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทได้ตามที่กฎหมายกําหนด

13.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint) ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอํานาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือหน่วยงานผู้มีอํานาจกํากับดูแลดังกล่าว หากบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัทขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัท เพื่อให้บริษัทมีโอกาสทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจง
ในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

14. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทอาจแก้ไขปรับปรุงประกาศแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านี้ บริษัทจะประกาศแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของ บริษัท คิวพี
(ประเทศไทย) จํากัด และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทาง Email หรือช่องทางที่ได้ติดต่อท่านไว้ ทั้งนี้ หากจําเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะดําเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย

การยื่นสมัครงาน หรือสมัครฝึกงานของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการยื่นสมัครงาน หรือติดต่อฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ฯ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ มิเช่นนั้น บริษัทจะถือว่าท่านได้รับทราบการ เปลี่ยนแปลงข้อตกลงในประกาศดังกล่าวแล้ว

15. การติดต่อสอบถาม และ/หรือขอใช้สิทธิ และ/หรือร้องเรียน

ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ หรือกรณีที่พบว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปในทางที่ไม่ชอบ แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

สถานที่ติดต่อ :

  • บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานใหญ่ เลขที่ 989 อาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์
    ชั้น 26 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
  • โรงงานคิวพี เลขที่ 55 หมู่ 6 ตําบลหลุมดิน อําเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000
  • ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail): dpo@kpthai.com
  • ทางโทรศัพท์ : 0 2294 5115, 032 741 771-5

ทั้งนี้ ในวันและเวลาทำการ (08.00 – 17.00 น.) วันจันทร์ - วันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดที่บริษัทกำหนด)

16. แบบฟอร์มขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  • ท่านสามารถติดต่อขอแบบฟอร์ม และยืนยันตัวตนตามที่บริษัทกําหนดให้ครบถ้วน เพื่อใช้สิทธิความเป็นส่วนตัวของท่านที่เกี่ยวข้องกับบริษัทตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่
    ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ฯ หรือส่งมาที่อีเมล : DPO@kpthai.com หรือส่งจดหมาย : จ่าหน้าซองถึงแผนกกฎหมายฯ บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานใหญ่ เลขที่ 989 อาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์
    ชั้น 26 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 หรือจ่าหน้าซองถึงแผนกกฎหมายฯ บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จํากัด เลขที่ 55 หมู่ 6 ตําบลหลุมดิน อําเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000 

17. ข้อสงวนสิทธ

บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ในกรณีที่บริษัทต้องขอเอกสารระบุตัวตน เช่น สําเนาบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง หรือเอกสาร อื่น ๆ ซึ่งอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive data) ได้แก่ ศาสนา เชื้อชาติ หรือหมู่เลือด บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บข้อมูลดังกล่าว จึงขอให้ท่านดําเนินการ
ขีดฆ่า หรือปิดทึบข้อมูลส่วนนั้น ทั้งนี้ หากท่านมิได้ดําเนินการตามที่แจ้ง บริษัท ขอสงวนสิทธิในการถือเสมือนว่าบริษัทไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้

ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล (สำนักงานใหญ่)

หมายเลขโทรศัพท์: 02-294-5115 

ที่อยู่: 1023  อาคารเอ็มเอสสยาม ชั้น 23 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120

ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล (จังหวัดราชบุรี)

หมายเลขโทรศัพท์: 032-741771-5 ต่อ 6403, 6443

Email :  manassaweem@kpthai.com ; nattaponk@kpthai.com

ที่อยู่: 55 หมู่ 6 ตำบลหลุมดิน อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000